รีวิว หนังคาวบอย สุดเซ็กซี่อย่าง The Power of the Dog

รีวิว หนังคาวบอย สุดเซ็กซี่อย่าง The Power of the Dog หนังเรื่องนี้จะพาคุณดำดิ่งไปกับสองพี่น้องคาวบอยที่มีความขัดแย้งกันโดยหนังเรื่องนี้จะสนุกและจบยังไงมาดูกันครับ

The Power of the Dog

The Power of the Dog เป็นภาพยนตร์ดราม่าจิตวิทยาตะวันตกปี 2021 เขียนบทและกำกับโดย Jane Campion โดยดัดแปลงจากนวนิยายปี 1967 ของ Thomas Savage ภาพยนตร์เรื่องนี้นำแสดงโดย Benedict Cumberbatch, Kirsten Dunst, Jesse Plemons และ Kodi Smit-McPhee ภาพยนตร์เรื่องนี้ถ่ายทำในมอนทานาแต่ส่วนใหญ่ถ่ายทำในชนบทของโอทาโก โดยเป็นผลงานร่วมทุนระหว่างนิวซีแลนด์และออสเตรเลีย The Power of the Dog 

ได้ฉายรอบปฐมทัศน์ที่เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเวนิสครั้งที่ 78 เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2021 ซึ่ง Campion ได้รับรางวัล Silver Lion สาขากำกับยอดเยี่ยม ภาพยนตร์เรื่องนี้เข้าฉายในโรงภาพยนตร์แบบจำกัดรอบในเดือนพฤศจิกายน 2021 และออกฉายทั่วโลกทาง Netflix เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2021 The Power of the Dog ได้รับการยกย่องจากนักวิจารณ์ ซึ่งยกย่องการกำกับและบทภาพยนตร์ของ Campion ตลอดจนการถ่ายภาพ ดนตรีประกอบ และการแสดงนำทั้งสี่ครั้ง

เรื่องย่อ

The Power of the Dog เป็นภาพยนตร์ดราม่าตะวันตกที่เล่าเรื่องราวของพี่น้องคาวบอยสองคนที่อาศัยอยู่ในมอนทานาในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 เรื่องราวเน้นไปที่ความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนและอันตรายระหว่างตัวละคร ซึ่งเต็มไปด้วยความขัดแย้งทางอารมณ์และจิตวิทยาฟิล เบอร์แบงค์ เป็นพี่ชายคนโต เขาเป็นชายหนุ่มที่แข็งแกร่ง เย็นชา และมีความเป็นผู้นำสูง ฟิลเป็นคนที่มีทัศนคติที่แข็งกร้าวและมักจะดูถูกคนอื่นอยู่เสมอ 

ตรงกันข้ามกับจอร์จ น้องชายของเขาที่อ่อนโยนและเป็นมิตร เมื่อจอร์จแต่งงานกับโรส หญิงหม้ายที่เข้ามาอยู่ที่ฟาร์มพร้อมกับลูกชายคนเล็ก ฟิลก็รู้สึกไม่พอใจและเริ่มที่จะกลั่นแกล้งโรสและลูกชายของเธออย่างต่อเนื่อง ฟิลใช้ความรุนแรงทางอารมณ์และจิตใจเพื่อทำลายความสุขของครอบครัวใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับปีเตอร์ ลูกชายของโรส 

ที่ฟิลพยายามที่จะทำให้เขาอ่อนแอและกลัว ฟิลแสดงออกถึงความเกลียดชังต่อโรสและปีเตอร์อย่างเปิดเผย เขาเยาะเย้ยถากถาง ดูถูก และสร้างความอับอายให้กับทั้งสองคน ฟิลมุ่งมั่นที่จะทำลายครอบครัวใหม่ของน้องชายให้พังทลาย เพื่อที่จะได้กลับมาเป็นศูนย์กลางของความสนใจของจอร์จอีกครั้ง และ หนังคาวบอย เรื่องนี้จะจบยังไงต้องไปดูกันเอาเองนะครับ

ข้อดีของหนัง

• การเล่าเรื่องที่ช้าแต่ทรงพลัง: ภาพยนตร์ไม่ได้เน้นการดำเนินเรื่องที่รวดเร็ว แต่กลับเน้นการสร้างบรรยากาศและพัฒนาตัวละครอย่างช้าๆ ทำให้ผู้ชมได้สัมผัสกับความรู้สึกของตัวละครอย่างลึกซึ้ง
• การแสดงที่ยอดเยี่ยม: นักแสดงทุกคนสามารถถ่ายทอดอารมณ์ของตัวละครได้อย่างสมจริง โดยเฉพาะเบเนดิกต์ คัมเบอร์แบตช์ ที่สามารถแสดงให้เห็นถึงความซับซ้อนของตัวละครฟิลได้อย่างน่าทึ่ง
• ภาพยนตร์ที่สวยงาม: The Power of the Dog เรื่องนี้มีภาพที่สวยงามและตระการตา โดยเฉพาะฉากธรรมชาติของมอนทานา
• การวิเคราะห์ตัวละคร: ภาพยนตร์เชิญชวนให้ผู้ชมวิเคราะห์ตัวละครและพฤติกรรมของพวกเขา ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้มีความน่าสนใจ
• ธีมที่น่าสนใจ: ภาพยนตร์พูดถึงหัวข้อที่หลากหลาย เช่น ความเป็นชาย ความรุนแรงทางอารมณ์ และความสัมพันธ์ในครอบครัว

ข้อเสียของหนัง

• การดำเนินเรื่องที่ช้า: สำหรับบางคน การดำเนินเรื่องที่ช้าอาจทำให้รู้สึกเบื่อหน่ายและขาดความตื่นเต้น
• เนื้อหาที่ซับซ้อน: เรื่องราวของภาพยนตร์มีความซับซ้อนและต้องการความตั้งใจในการรับชม ผู้ชมบางคนอาจรู้สึกสับสนหรือไม่เข้าใจในบางส่วน
• บทสรุปที่เปิดกว้าง: บทสรุปของภาพยนตร์ค่อนข้างเปิดกว้าง ทำให้ผู้ชมต้องตีความหมายเอง ซึ่งอาจทำให้เกิดความเห็นที่แตกต่างกัน

จบไปแล้วสำหรับรีวิว หนังคาวบอย สุดเซ็กซี่อย่าง The Power of the Dog ใครที่ชื่นชอบหนังแนวนี้ก็สามารถไปหาดูกันได้เลยนะครับ ส่วนใครที่ต้องการดูหนังแนวอื่นๆก็สามารถเข้ามาหาดูกันได้ที่นี่เลยนะครับ เพียงสมัครสมาชิกกับเรา